Voicebot
Boonyawee Sirimaya
3
นาที อ่าน
September 5, 2024

แนวโน้มการสื่อสารด้วย ‘เสียงและ Messenger’ ปี 2024

ในปี 2024 การสื่อสารของเรายังคงพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยแอปแมสเซนเจอร์และการสื่อสารด้วยเสียงมีบทบาทสำคัญ ขณะที่ธุรกิจและบุคคลทั่วไปปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ การติดตามแนวโน้มล่าสุดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง บทความนี้จะสำรวจพัฒนาการล่าสุดในการสื่อสารผ่านแมสเซนเจอร์และเสียง โดยเน้นที่ Facebook Messenger และเทคโนโลยีด้านเสียงที่กำลังกำหนดอนาคตของพวกเรา

การเติบโตของ Messenger

แอปแมสเซนเจอร์ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในการสื่อสารประจำวัน มีผู้ใช้หลายพันล้านคนทั่วโลก โดยเฉพาะ Facebook Messenger ยังคงเป็นผู้นำในด้านนี้ นำเสนอฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการในการสื่อสารทั้งส่วนตัวและทางธุรกิจ

ภาพรวมอินเตอร์เฟซแอปส่งข้อความและโซเชียลมีเดียบนสมาร์ทโฟน
อินเตอร์เฟซของ Messenger

1. การเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

ในปี 2024 เรื่องความเป็นส่วนตัวกลายเป็นประเด็นร้อนที่ใครๆ ก็ให้ความสำคัญ Facebook Messenger ได้ตอบสนองด้วยการอัปเกรดระบบด้วยการเข้ารหัสแบบต้นทางถึงปลายทางให้กับทุกการสนทนา เพื่อให้ผู้ใช้วางใจได้ว่าข้อความของตัวเองจะปลอดภัย แนวคิดนี้ตอบโจทย์ความต้องการของยุคดิจิทัลที่คนอยากได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับธุรกิจแล้ว นี่เท่ากับเป็นการการันตีว่าทุกครั้งที่คุยกับลูกค้า ข้อมูลจะได้รับการปกป้องอย่างดี ช่วยสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและทำให้ลูกค้ารักแบรนด์มากขึ้นด้วย

2. การบูรณาการกับแพลตฟอร์มอื่นๆ

อีกหนึ่งแนวโน้มคือการบูรณาการอย่างราบรื่นของ Facebook Messenger กับแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์อื่นๆ และเครื่องมือทางธุรกิจ ธุรกิจต่างๆ สามารถจัดการการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าผ่าน Facebook, Instagram และ WhatsApp จากอินเทอร์เฟซเดียว วิธีการแบบรวมศูนย์นี้ทำให้การสื่อสารง่ายขึ้น ช่วยให้สามารถมีส่วนร่วมกับลูกค้าบนแพลตฟอร์มที่พวกเขาชื่นชอบได้ง่ายขึ้น

3. การสนับสนุนลูกค้าด้วย AI

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเปลี่ยนแปลงการบริการลูกค้าบน Facebook Messenger ในปี 2024 ธุรกิจต่างๆ ใช้แชทบอท AI มากขึ้นเพื่อให้การสนับสนุนได้แบบทันที ตอบคำถามที่พบบ่อย รวมถึงประมวลผลคำสั่งซื้อ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มประสบการณ์ของลูกค้า แต่ยังช่วยลดภาระงานสำหรับพนักงานอีกด้วย

การเติบโตของการสื่อสารด้วยเสียง

การสื่อสารด้วยเสียงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยขับเคลื่อนด้วยการเติบโตของ AI ผู้ช่วยเสียงและอุปกรณ์ที่ใช้งานด้วยเสียงต่างๆ ในปี 2024 แนวโน้มการสื่อสารด้วยเสียงมุ่งเน้นไปที่ความสะดวก การเข้าถึง และประสิทธิภาพ

1. ผู้ช่วยเสียงในชีวิตประจำวัน

ผู้ช่วยเสียงอย่าง Siri, Google Assistant และ Alexa กำลังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ผู้ช่วยเหล่านี้สามารถจัดการงานที่ซับซ้อนได้ ตั้งแต่การตั้งเตือนไปจนถึงการควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม การพึ่งพาคำสั่งเสียงที่เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของการค้นหาด้วยเสียง

ลำโพง Google Home พร้อมโลโก้ Google Assistant
Google Assistant

2. บทบาทของเสียงในการบริการลูกค้า

ธุรกิจต่างๆ กำลังใช้ประโยชน์จากการสื่อสารด้วยเสียงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการลูกค้า  voicebots ที่ขับเคลื่อนด้วย AI กำลังจัดการการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าส่วนใหญ่  voicebots เหล่านี้สามารถช่วยเหลือได้ทุกอย่างตั้งแต่การจองนัดหมายไปจนถึงการแก้ไขปัญหา โดยให้การสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน โดยไม่จำเป็นต้องมีการแทรกแซงจากมนุษย์

3. Voice-Activated Marketing

Voice-Activated Marketing หรือการตลาดที่ใช้งานด้วยเสียงเป็นแนวโน้มที่กำลังเติบโตในปี 2024 แบรนด์ต่างๆ กำลังสร้างประสบการณ์ด้านเสียงเพื่อมีส่วนร่วมกับลูกค้าผ่านลำโพงอัจฉริยะ 

ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้สามารถขอคำแนะนำผลิตภัณฑ์หรือสั่งซื้อโดยตรงผ่านคำสั่งเสียงจากผู้ช่วยเสียงของพวกเขา แนวโน้มนี้เปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับธุรกิจในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในรูปแบบที่มีปฏิสัมพันธ์และเป็นส่วนตัวมากขึ้น

การผสมผสานแมสเซนเจอร์และเสียงเพื่อประสบการณ์ที่ครบวงจร

การหลอมรวมของการสื่อสารผ่านแมสเซนเจอร์และเสียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้ โดยมอบประสบการณ์การสื่อสารที่ราบรื่นและยืดหยุ่น ผู้ใช้สามารถสลับระหว่างข้อความและเสียงได้อย่างง่ายดาย ตอบสนองความชอบและความต้องการตามสถานการณ์ของพวกเขา วิธีการแบบหลายช่องทางนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความพึงพอใจของผู้ใช้ แต่ยังส่งเสริมการสนทนาที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น เนื่องจากลูกค้าสามารถแสดงออกได้ดีขึ้นผ่านเสียงในหลายบริบท เช่น ในกรณีฉุกเฉินหรือขณะทำงานหลายอย่างพร้อมกัน

การเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้

การรวมฟีเจอร์ด้านเสียงในแอปส่งข้อความสามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ได้อย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์มอย่าง Facebook Messenger อนุญาตให้ผู้ใช้ส่งข้อความเสียง ซึ่งสามารถสื่ออารมณ์และนัยต่างๆ ที่ข้อความอาจไม่มี 

ความสามารถนี้ส่งเสริมการเชื่อมต่อที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น ทำให้การปฏิสัมพันธ์รู้สึกจริงใจและฉับไวมากขึ้น นอกจากนี้ ความสามารถในการรวมการโทรด้วยเสียงและการแชทวิดีโอช่วยเพิ่มประสบการณ์การสื่อสารโดยรวม ทำให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ภาพประกอบของคนกำลังโต้ตอบกับแชทบอทหรือผู้ช่วยเสียงบนสมาร์ทโฟน
การมีส่วนร่วมของผู้ใช้กับผู้ช่วย AI

การประยุกต์ใช้งานจริงในอุตสาหกรรมต่างๆ

การควบรวมฟีเจอร์ด้านเสียงและการส่งข้อความมีประโยชน์อย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น การบริการลูกค้าและการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน ธุรกิจสามารถปรับปรุงการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพโดยใช้การส่งข้อความเสียงสำหรับการอัปเดตหรือคำแนะนำอย่างรวดเร็ว 

ในขณะที่บริการฉุกเฉินสามารถใช้ฟีเจอร์ Push-to-Talk สำหรับการสื่อสารแบบทันทีระหว่างสมาชิกในทีม การผสมผสานนี้ไม่เพียงแต่ปรับปรุงประสิทธิภาพ แต่ยังเพิ่มความร่วมมือและการตอบสนองในสถานการณ์วิกฤติอีกด้วย

บทสรุป

แนวโน้มในการสื่อสารผ่านแมสเซนเจอร์และเสียงในปี 2024 แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องไปสู่วิธีการสื่อสารที่บูรณาการ ปลอดภัย และขับเคลื่อนด้วย AI มากขึ้น ในขณะที่ธุรกิจและผู้บริโภคยังคงยอมรับเทคโนโลยีเหล่านี้ การติดตามพัฒนาการล่าสุดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง การมุ่งเน้นไปที่แนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้นเหล่านี้ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าธุรกิจของคุณจะยังคงแข่งขันได้ในโลกที่การสื่อสารดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

ทาง Amity Solutions ก็มีบริการ AI Voicebot ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานเช่นกัน ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่นี่