Meta Llama 3: โมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ล้ำสมัยที่สุดในปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2024 Meta ได้ประกาศเปิดตัว Llama 3 ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่แบบ open source รุ่นล่าสุดที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในขณะนี้ โดยจะมีให้ใช้งานบนแพลตฟอร์มชั้นนำต่างๆ เช่น AWS, Databricks, Google Cloud, Hugging Face, Kaggle, IBM WatsonX, Microsoft Azure, NVIDIA NIM และ Snowflake รวมถึงรองรับฮาร์ดแวร์จาก AMD, AWS, Dell, Intel, NVIDIA และ Qualcomm อีกด้วย
Meta Llama คืออะไร?
Meta Llama คือหนึ่งในโมเดลภาษาขนาดใหญ่แบบ autoregressive (LLM) ที่พัฒนาโดย Meta AI โดยที่โมเดลเหล่านี้ เริ่มต้นจาก LLaMA ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ซึ่งได้รับการเปิดตัวโดย Meta AI ด้วยพารามิเตอร์ที่แตกต่างกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลภาษาธรรมชาติ
Meta Llama 3 vs. Meta Llama 2
Meta Llama 3 มีเป้าหมายในการตอบสนองที่ดีขึ้นโดยการทำความเข้าใจบริบทและให้คำตอบที่มีรายละเอียดมากขึ้น รวมถึงมีการปรับปรุงหลายอย่างเมื่อเทียบกับ Meta Llama 2 รุ่นก่อนหน้า โดยสามารถเปรียบเทียบความแตกต่างได้ดังนี้
ประสิทธิภาพ: Meta Llama 3 อาจมีความเร็วในการประมวลผลสูงขึ้น ความจุหน่วยความจำมากขึ้น และประสิทธิภาพโดยรวมดีกว่า Meta Llama 2
คุณสมบัติ: Meta Llama 3 อาจมีคุณสมบัติเพิ่มเติมหรือคุณสมบัติที่ปรับปรุงแล้วเมื่อเทียบกับ Meta Llama 2 ยกตัวอย่างเช่น มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ดีขึ้น ตัวเลือกการปรับแต่งมากขึ้น หรือมีรูปลักษณ์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้น
การออกแบบ: Meta Llama 3 มีการออกแบบที่ทันสมัยหรือดูสวยงามกว่า Meta Llama 2 มันยังอาจมีขนาดที่กะทัดรัดหรือน้ำหนักเบา หรือมีความทนทานมากขึ้น
คุณสมบัติเด่นของ Llama 3
📌 Llama 3 ทำคะแนนสูงสุดในบรรดาโมเดลโอเพนซอร์สด้วยกันในการทดสอบตามมาตรฐานอุตสาหกรรมหลายรายการ เช่น MMLU และ HumanEval
📌 Tokenizer ตัวใหม่พร้อม Vocabulary 128K เพื่อเพิ่มความเร็วในการประมวลผล
📌 ขยายขนาด Context Window เป็น 8,192 Tokens
📌 ใช้ Grouped Query Attention (GQA) เพื่อเพิ่มความเร็วในการประมวลผลในขั้นตอน Inference
📌 เทรนด้วยข้อมูล 15 ล้านล้าน Tokens มากกว่า Llama 2 ถึง 7 เท่า
📌 ปรับปรุง Instruction Fine-tuning ให้ให้เหตุผลและเขียนโค้ดได้ดีขึ้น
📌 เสริมความปลอดภัยด้วย Llama Guard 2, Code Shield และ CyberSec Eval 2
📌 Meta AI: ผู้ช่วยอัจฉริยะขับเคลื่อนโดย Llama 3 เพิ่มความเร็วในการประมวลผลและความคิดสร้างสรรค์
การพัฒนาอย่างมีความรับผิดชอบ
ในการพัฒนา Llama 3 ทาง Meta ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างมีความรับผิดชอบเป็นอย่างมาก จึงได้จัดเตรียมทรัพยากรและเครื่องมือต่างๆ เพื่อส่งเสริมการใช้งานอย่างเหมาะสม อาทิ Llama Guard 2, Code Shield และ CyberSec Eval 2 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือในการนำ Llama 3 ไปประยุกต์ใช้
การขยายขีดความสามารถในอนาคต
อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ทาง Meta มีแผนที่จะเพิ่มความสามารถใหม่ๆ ให้กับ Llama 3 โดยจะขยายความยาวของ Context Window, เพิ่มขนาดของโมเดล และพัฒนาประสิทธิภาพโดยรวมให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้จะมีการเผยแพร่ผลงานวิจัยเกี่ยวกับ Llama 3 ให้ชุมชนได้ศึกษากันอย่างละเอียดอีกด้วย
ทาง Meta หวังเป็นอย่างยิ่งว่า Llama 3 จะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำคัญที่จะมาช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ๆ ทางด้าน AI ในอนาคต และพร้อมที่จะร่วมมือกับนักพัฒนาในการสร้างสรรค์แอปพลิเคชัน Generative AI ที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกร่วมกัน
เริ่มต้นใช้งาน Llama 3
ความก้าวหน้าที่น่าสนใจ คือ Meta AI ซึ่งเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่พัฒนาขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีของ Llama 3 ถือเป็นหนึ่งในผู้นำด้าน AI Assistant ที่จะมาช่วยเพิ่มความเร็วในการประมวลผลในการเรียนรู้ การทำงาน การสร้างสรรค์เนื้อหา และการเชื่อมต่อกับสิ่งที่มีความหมายของผู้ใช้ ซึ่งสามารถทดลองใช้ Meta AI ได้แล้ววันนี้
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดาวน์โหลดโมเดล Llama 3 และศึกษาคู่มือการใช้งานเบื้องต้นได้ที่เว็บไซต์ทางการ ซึ่งมีให้เลือกใช้บนหลากหลายแพลตฟอร์ม ทาง Meta ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เห็นผลงานอันน่าทึ่งที่ทุกคนจะร่วมกันพัฒนาขึ้นด้วย Llama 3 และพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เสมอ