Industry
Boonyawee Sirimaya
2
นาที อ่าน
July 8, 2024

35% ของคนไทยใช้ AI ในชีวิตประจำวันและการทำงาน

ปัจจุบัน การใช้งานปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในสังคมไทย จากผลการวิจัยล่าสุดพบว่า คนไทยมากกว่าร้อยละ 35 มีแนวโน้มที่จะใช้ AI ทั้งในชีวิตส่วนตัวและการทำงาน นั่นหมายความว่า AI กำลังเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในชีวิตของเรา ไม่ว่าจะเป็นการสั่งอาหาร ดูแลสุขภาพ หรือแม้แต่การทำงานที่ออฟฟิศ

AI ในชีวิตประจำวัน

อาหารริมทาง: สำหรับคนที่ชื่นชอบการกินอาหารริมทาง AI สามารถแนะนำเมนูยอดนิยม และคำนวณค่าแคลอรี่ของอาหารได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ AI ยังสามารถช่วยผู้ขายในการบริหารจัดการวัตถุดิบและลดปัญหาการขาดแคลนสินค้า

การทำอาหารที่บ้าน: สำหรับแม่บ้านหรือคนที่รักการทำอาหาร AI สามารถแนะนำสูตรอาหารจากวัตถุดิบที่มีในตู้เย็น และแจ้งเตือนเมื่อวัตถุดิบใกล้หมดอายุ ซึ่งช่วยให้การทำอาหารเป็นเรื่องง่ายและประหยัดเวลา

ความบันเทิง: AI สามารถสร้างคู่หูเสมือนจริงที่มีบุคลิกตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนคุย เล่นเกม หรือช่วยสร้างเนื้อหาบนโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ AI ยังสามารถแนะนำหนัง เพลง หรือรายการทีวีที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้ได้

ภาพประกอบผู้หญิงใช้เครื่องมือสื่อและเสียงที่ขับเคลื่อนด้วย AI
AI เพิ่มประสิทธิภาพความบันเทิงและการบริโภคสื่อ

สุขภาพ: AI มีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพ เช่น ออกแบบโปรแกรมออกกำลังกายเฉพาะบุคคล และให้คำแนะนำด้านอาหารที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ช่วยให้การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพ

การศึกษา: AI สามารถช่วยในการเรียนรู้ เช่น ระบบติวเตอร์ออนไลน์ที่สามารถปรับเนื้อหาการสอนตามความต้องการและความสามารถของนักเรียนแต่ละคน ช่วยให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสนุกสนาน

การเดินทาง: AI ช่วยในการวางแผนการเดินทางและการจราจร เช่น แอปพลิเคชันนำทางที่สามารถแนะนำเส้นทางที่เร็วที่สุดและแจ้งเตือนเกี่ยวกับการจราจรติดขัดหรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนน นอกจากนี้ AI ยังสามารถช่วยในการจัดการตารางเวลาของระบบขนส่งสาธารณะให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การช้อปปิ้ง: AI ช่วยในการเลือกสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค เช่น ระบบแนะนำสินค้าที่สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการช้อปปิ้งของผู้ใช้และเสนอสินค้าที่คาดว่าจะชอบ นอกจากนี้ AI ยังช่วยในการบริหารจัดการสินค้าคงคลังและการจัดส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ภาพวาดเส้นของการช็อปปิ้งออนไลน์พร้อมการติดตามการจัดส่งด้วย AI
AI ปรับปรุงการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และโลจิสติกส์

การเงิน: AI สามารถช่วยในการบริหารจัดการการเงินส่วนบุคคล เช่น การวางแผนการเงิน การแนะนำการลงทุน และการจัดการหนี้สิน นอกจากนี้ AI ยังสามารถตรวจสอบรายการธุรกรรมและแจ้งเตือนเมื่อพบกิจกรรมที่น่าสงสัย เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงิน

บ้านอัจฉริยะ: AI ช่วยในการบริหารจัดการบ้านอัจฉริยะ เช่น การควบคุมระบบไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ และระบบความปลอดภัย ผ่านแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ในบ้าน ทำให้การดูแลบ้านเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย

AI ในการทำงาน

การสื่อสารในองค์กร: ในที่ทำงาน AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารระหว่างพนักงาน เช่น ระบบแชทบอทในแอปพลิเคชันของบริษัท สามารถตอบคำถามทั่วไปได้ตลอด 24 ชั่วโมง และยังช่วยในการจัดการเอกสาร ลดภาระงานที่ต้องทำซ้ำๆ

ภาพประกอบแชทบอท AI จัดการการสื่อสารทางอีเมล
AI เพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารในองค์กร

การจัดการงาน: AI สามารถช่วยวางแผนและจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การติดตามโปรเจกต์ และการให้คำแนะนำในการตัดสินใจ ซึ่งช่วยให้ผู้บริหารสามารถมองเห็นภาพรวมและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว

การตลาดและการขาย: ในภาคธุรกิจ AI มีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า และเสนอแนะวิธีการขายที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ AI ยังช่วยในการจัดการโฆษณาออนไลน์ และวิเคราะห์ผลการตลาด ทำให้การตลาดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การผลิต: AI สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ด้วยการควบคุมเครื่องจักรและการตรวจสอบคุณภาพของสินค้าแบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดข้อผิดพลาดและเพิ่มความรวดเร็วในการผลิต

การบริการลูกค้า: AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้า เช่น การใช้แชทบอทตอบคำถามลูกค้าแบบเรียลไทม์ และการวิเคราะห์ความคิดเห็นของลูกค้าเพื่อปรับปรุงการบริการ

ผู้หญิงโต้ตอบกับบอทบริการลูกค้า AI บนแท็บเล็ต
AI ปฏิวัติการปฏิสัมพันธ์ในการบริการลูกค้า

การพัฒนากรอบการกำกับดูแล AI ในไทย

ทั้งภาครัฐและเอกชนในไทยกำลังพัฒนากรอบการกำกับดูแล AI เพื่อให้มั่นใจว่า AI จะถูกนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย มีการออกแนวทางจริยธรรม AI และกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้การใช้งาน AI เป็นไปอย่างโปร่งใส และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

การพัฒนากรอบการกำกับดูแล AI ที่เหมาะสม จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างเต็มที่ ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การนำ AI มาใช้ในชีวิตประจำวันและการทำงานไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยให้เรามีเวลามากขึ้นในการทำสิ่งที่เรารัก และช่วยให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

ในอนาคต AI จะมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในชีวิตประจำวันและการทำงานของคนไทย การพัฒนากรอบการกำกับดูแลที่เหมาะสม จะช่วยให้การใช้งาน AI เป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ และปลอดภัยต่อผู้ใช้ทุกคน

ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี AI ที่ไม่หยุดยั้งและการนำไปใช้ในหลากหลายด้าน เราจึงเห็นได้ว่า AI กำลังเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนไทยและช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น คนไทยสามารถคาดหวังว่า AI จะกลายเป็นผู้ช่วยที่ขาดไม่ได้ในทุกๆ ด้านของชีวิต และนำมาซึ่งความสะดวกสบายและประสิทธิภาพที่สูงขึ้นในทุกๆ ด้านของการดำเนินชีวิต

ทาง Amity Solutions ก็มีบริการที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานเช่นกัน ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่นี่