คู่มือ 5 ข้อในการสร้างองค์กรที่น่าอยู่ฉบับปี 2024
วัฒนธรรมองค์กรคือหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนธุรกิจ เรียกได้ว่าเป็นตัวหล่อหลอมขวัญกำลังใจ ผลิตภาพ การรักษาพนักงาน และผลกำไรขององค์กร ในโลกธุรกิจยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การส่งเสริมวัฒนธรรมเชิงบวกจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ผลสำรวจของ Gartner เผยว่าในปี 2023 ผู้นำฝ่ายทรัพยากรบุคคลถึง 82% ระบุว่าวัฒนธรรมองค์กรคือภารกิจที่สำคัญที่สุดในการรักษาประสิทธิภาพของบริษัท (Gartner, 2023)
ในขณะที่เราก้าวเข้าสู่ปี 2024 ถึงเวลาแล้วที่จะทบทวนและปรับปรุงวัฒนธรรมองค์กร เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่พนักงานสามารถเติบโตได้อย่างเต็มที่
Step 1: เริ่มต้นที่ผู้นำ
ก่อนที่จะเริ่มเปลี่ยนแปลงองค์กร ผู้นำควรใช้เวลาไตร่ตรองความรับผิดรอบและการกระทำของตัวเองที่ผ่านมา ที่บางครั้งอาจละเลยความคิดเห็นของพนักงานโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือนำกระบวนการใหม่ๆ มาใช้โดยไม่ได้ปรึกษาทีมงานก่อน การยอมรับจุดที่ต้องพัฒนาตนเองแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงเชิงบวก และกำหนด tone of voice ให้กับทั้งองค์กร อย่างที่ Brené Brown นักวิจัยและนักเขียนชื่อดังกล่าวไว้ว่า
"การเป็นผู้นำที่กล้าหาญคือการรับใช้ผู้อื่น ไม่ใช่ตัวเอง นั่นแหละ เรียกว่าความกล้าหาญที่แท้จริง"
— Brené Brown, ศาสตราจารย์ด้านการวิจัย มหาวิทยาลัยฮูสตัน
Step 2: เข้าใจต้นตอของปัญหา
ในการจัดการปัญหาวัฒนธรรมองค์กร ต้องทำความเข้าใจที่ต้นตอของปัญหา โมเดล SCARF ของ David Rock มีกรอบการประเมิน 5 ด้านเพื่อพัฒนาองค์กร ได้แก่
- สถานะ: พนักงานรู้สึกไม่มีคุณค่าหรือถูกปฏิบัติไม่เป็นธรรมหรือไม่
- ความแน่นอน: ขาดความโปร่งใสหรือการสื่อสารหรือไม่
- ความเป็นอิสระ: ทีมงานรู้สึกถูกจับตาหรือขาดการควบคุมงานด้วยตนเองหรือไม่
- ความสัมพันธ์: มีอุปสรรคในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งหรือไม่
- ความเป็นธรรม: มีการตัดสินใจโดยไม่มีเหตุผลชัดเจนหรือปราศจากความเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหรือไม่
จากการสำรวจปัจจัยเหล่านี้ เราจะสามารถระบุปัญหาและหาทางแก้ไขได้ตรงจุด โรบิน รอสส์ โค้ชผู้บริหารจาก OptimizeU เน้นย้ำว่า
"การทำงานในสภาพแวดล้อมที่ตึงเครียดเรื้อรังไม่เพียงแต่ทำให้ทีมทำงานด้อยประสิทธิภาพ แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของพนักงานด้วย"
– Robin Ross, ผู้บริหาร OptimizeU Leadership Coaching
Step 3: เปิดกว้างทางการสื่อสาร
สร้างพื้นที่ปลอดภัยเพื่อให้พนักงานได้แบ่งปันความคิด ข้อกังวล และไอเดียใหม่ๆ ด้วยการจัดประชุมทั่วทั้งบริษัท ทำแบบสำรวจแบบไม่เปิดเผยตัวตน รวมถึงส่งเสริมการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง เมื่อทีมงานได้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา พวกเขาจะมีความรู้สึกเป็นเจ้าของและทุ่มเทเพื่อการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับบริษัทมากขึ้น ดังที่ ชาห์นาซ บรูเซ็ค ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยมิชิแกน ระบุว่า
"เมื่อพนักงานได้เข้าร่วมในกระบวนการแก้ปัญหา พวกเขาจะสร้างความเข้าใจร่วมกัน และรู้สึกเป็นเจ้าของผลลัพธ์นั้นๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนนำไปสู่การเพิ่มขวัญกำลังใจและการทำงานที่มีคุณภาพมากขึ้น"
— Shahnaz Broucek ศาสตราจารย์ มหาวิทยาลัยมิชิแกน
Step 4: รู้จักปรับตัว
ปี 2024 โลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วปี 2024 แบบแผนเดิมๆ คือศัตรูของความก้าวหน้า จงพร้อมละทิ้งความคิดเดิมๆ หรือนโยบายที่ล้าสมัย ไม่เหมาะจะนำมาใช้ในปัจจุบัน ปรับใช้แนวคิด Agile ปรับปรุงแบบค่อยเป็นค่อยไปตามผลตอบรับของพนักงาน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าระบบประเมินผลงานกลายเป็นสาเหตุของปัญหาอยู่บ่อยครั้ง ลองร่วมมือกับทีมเพื่อออกแบบวิธีการที่ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Step 5: ใช้เทคโนโลยีสร้างวัฒนธรรมองค์กร
เทคโนโลยีมีพลังที่จะช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เฟื่องฟู การทำงานแบบอัตโนมัติและการรวมข้อมูลไว้ที่ศูนย์กลางจะทำให้คุณลดภาระงานจำเจ และโฟกัสไปที่สิ่งสำคัญที่สุด นั่นคือบุคลากร ลองใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อการสื่อสารที่สะดวกยิ่งขึ้น การจัดการทำงานแบบร่วมมือกัน และการชื่นชมพนักงาน อ้างอิงจากรายงาน 2023 Human Capital Trends ของ Deloitte เน้นว่า
"องค์กรที่นำเทคโนโลยีมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อส่งเสริมศักยภาพของพนักงาน จะถูกจัดอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดหลังยุคโรคระบาด"
— Deloitte บริษัทให้บริการด้านวิชาชีพระดับโลก
การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีนำมาซึ่งการเดินทางสู่อนาคตที่ไม่มีวันสิ้นสุด การให้ความสำคัญกับการไตร่ตรองตนเอง การสื่อสารแบบเปิดกว้าง ความสามารถในการปรับตัว และการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในองค์กร นำมาซึ่งสภาพแวดล้อมที่พนักงานรู้สึกมีคุณค่า มีส่วนร่วม และได้รับแรงบันดาลใจให้ทำงานได้ดีที่สุด ดังคำกล่าวของ ไซมอน ซีเนค
"ลูกค้าจะไม่มีวันรักบริษัทจนกว่าพนักงานจะรักบริษัทของตัวเองก่อน"
— Simon Sinek, นักเขียนและนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ
ทาง Amity Solutions ก็มีบริการ Eko เครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในองค์กรเช่นกัน ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่นี่